การทำงานในพื้นที่อับอากาศอย่างปลอดภัย

 ที่อับอากาศ คือ สถานที่ที่มีทางเข้าออกจำกัด ไม่ได้ออกแบบไว้สำหรับการทำงานต่อเนื่อง และอาจมีอันตราย เช่น ขาดอากาศ ออกซิเจนมาก-น้อยเกินไป มีสารพิษ ไอระเหยไวไฟ หรือสภาวะที่อาจทำให้เกิดการจม การติด หรือการบาดเจ็บอื่นๆ และมีการระบายอากาศไม่เพียงพอ ที่จะทำให้อากาศภายในอยู่ในสภาพถูกสุขลักษณะและปลอดภัย เช่น อุโมงค์ ถ้ำ บ่อ หลุม ห้องใต้ดิน ห้องนิรภัย ถังน้ำมัน ถังหมัก ถัง ไซโล ท่อ เตา 

    มาตราฐานในการทำงานในที่อับอากาศ  

ในสหรัฐอเมริกา มีมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญ 2 ฉบับที่องค์กรและผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามเมื่อต้องทำงานในที่อับอากาศ ได้แก่

• OSHA 1910.146 – เป็นข้อกำหนดด้านกฎหมายภาคบังคับที่ออกโดยสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (Occupational Safety and Health Administration: OSHA)

• ANSI Z117.1 – เป็นแนวปฏิบัติเสริมที่ออกโดยสถาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริกัน (American National Standards Institute: ANSI)

   OSHA 1910.146  มีคำจำกัดความสามส่วน:

1.พื้นที่จะต้อง “ใหญ่เพียงพอและจัดวางให้พนักงานสามารถเข้าไปและทำงานที่ได้รับมอบหมายได้” และ

2.พื้นที่นั้นต้อง “มีทางเข้าหรือทางออกที่จำกัดหรือถูกจำกัด” และ

3.พื้นที่จะต้องไม่ "ออกแบบมาเพื่อให้พนักงานใช้งานอย่างต่อเนื่อง"

  และหากมี “อันตรายเพิ่มเติม” เช่น ก๊าซพิษ หรือขาดออกซิเจน จะจัดเป็น “Permit-Required Confined Space” (ต้องมีใบอนุญาตเข้าไปทำงาน)

  ANSI Z117.1  

    ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยขั้นต่ำที่ต้องปฏิบัติตามขณะเข้า ออก และทำงานในพื้นที่จำกัดภายใต้ความดันบรรยากาศปกติ มาตรฐานนี้ยังให้คำแนะนำในการระบุและประเมินพื้นที่จำกัด พื้นที่จำกัดที่ต้องมีใบอนุญาตและไม่ต้องมีใบอนุญาต

• การประเมินความเสี่ยงเชิงลึก: ช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าใจบริบทของพื้นที่และลักษณะของการทำงาน

• ความยืดหยุ่นในการประยุกต์: องค์กรสามารถปรับขั้นตอนตามทรัพยากรและขนาดขององค์กรได้

• เน้นการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง: โดยเฉพาะการซ้อมกู้ภัยในสถานการณ์สมมุติ

PRCS (Permit-Required Confined Space) คือ ที่อับอากาศที่มีอันตรายเพิ่มเติม (การเข้าไปในพื้นที่ประเภทนี้ต้องมีใบอนุญาตเท่านั้น)

• มีบรรยากาศที่เป็นอันตราย (เช่น ขาดออกซิเจน หรือมีก๊าซพิษ)

• มีความเสี่ยงติดกับ หรือจมน้ำ

• มีอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่ เช่น ใบพัด หรือสายพาน

• มีรูปร่างหรือการจัดวางที่อาจทำให้ผู้ปฏิบัติงานติดอยู่ภายใน

        อันตรายจากการทำงานในสถานที่อับอากาศ 

1. การขาดออกซิเจน สาเหตุใหญ่ของการตายในสถานที่อับอากาศ คือ ขาดออกซิเจนในการหายใจ หมายถึง ปริมาณออกซิเจนในสถานที่อับอากาศนั้นน้อยกว่า 19.5 Vol.% หรือมากกว่า 23.5 Vol.% สาเหตุเกิดจากมีการติดไฟ หรือ การระเบิด ไฟจะใช้ออกซิเจนเพื่อการลุกไหม้ การแทนที่ออกซิเจนด้วยก๊าซอื่น
2. บรรยากาศที่ติดไฟได้ หรือ ปฏิกิริยาการเผาไหม้ สาเหตุสำคัญของการตายในสถานที่อับอากาศอีกสาเหตุหนึ่งคือ การเกิดไฟ และการระเบิด โดยมีก๊าซ ไอ ละอองที่ติดไฟหรือระเบิดได้ เกินกว่าร้อยละ 10 ของค่าความเข้มข้นขั้นต่ำของสารเคมีแต่ละชนิดในอากาศที่อาจติดไฟหรือระเบิดได้ (Lower Flammable Limit หรือ Lower Explosive Limit) และมีฝุ่นที่ทำให้ติดไฟหรือระเบิดได้ ซึ่งมีค่าความเข้มข้นเท่ากับหรือมากกว่าค่าความเข้มข้มขั้นต่ำของสารเคมีแต่ละชนิดในอากาศที่อาจติดไฟหรือระเบิดได้ (LEL) สิ่งก่อเหตุคือ สารเคมี สี ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม สารทำละลาย หรือวัตถุจากธรรมชาติ สามารถทำให้เกิดการระเบิดได้ ไอหรือก๊าซที่ทำให้เกิดเปลวไฟ ในสถานที่อับอากาศสามารถเกิดประกายไฟขึ้นได้ จากการกระทำดังนี้ การเกิดไฟฟ้าช็อต การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้ป้องกันการเกิดประกายไฟ การขัด การสูบบุหรี่ การเชื่อมโลหะ
3. บรรยากาศที่เป็นพิษ  ตรายเมื่อมีค่าความเข้มข้นของสารเคมีแต่ละชนิดเกินมาตรฐาน สารพิษหลายชนิดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ หรือได้กลิ่น สามารถทำให้เกิดอันตรายใหญ่ๆ ได้ 2 แบบ ในสถานที่อับอากาศ คือ การระคายเคือง ถึงแม้จะมีสารพิษเพียงเล็กน้อย แต่ก็อาจมีผลกับระบบทางเดินหายใจ หรือระบบประสาทและฆ่าเราได้ การขาดออกซิเจนจากสารเคมี เมื่อสารเคมีเป็นสารพิษเข้าสู่ร่างกาย สามารถไปหยุดการนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย  และทำให้ร่างกายคุณขาดออกซิเจน เกิดอาการปวดศีรษะ มึนงง วิงเวียน คลื่นไส้ ก๊าซพิษที่ทำให้เกิดอันตรายในสถานที่อับอากาศบ่อยๆ คือ คาร์บอนมอนนอกไซด์(CO) เกิดจากการเผาไหม้ สามารถทำให้ตายได้ โดยการเข้าไปแทนที่ออกซิเจนในเลือด ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มีกลิ่นเหม็น และมีพิษ ถึงแม้จะมีจำนวนน้อย ไฮโดรเจนซัลไฟด์(H2S) เกิดในขบวนการอุตสาหกรรม สามารถทำให้หยุดการหายใจ ถ้าเข้าไปในร่างกาย การมีอยู่ของก๊าซพิษ ไอระเหย หรือฝุ่นละอองที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S)

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในงานพื้นที่อับอากาศโดยทั่วไปแล้วมักจะต้องมีอุปกรณ์

   อุปกรณ์ตรวจวัดบรรยากาศ

1.เครื่องวัดก๊าซ (Gas Detector): สำหรับตรวจวัดระดับออกซิเจน (O2​), ก๊าซพิษ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ไฮโดรเจนซัลไฟด์

(H2​S), และก๊าซไวไฟ (LEL). ต้องตรวจสอบบรรยากาศก่อนเข้าไปและอาจต้องตรวจสอบอย่างต่อเนื่องขณะทำงาน 

                                  

2. อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลอื่นๆ (Other Personal Protective Equipment - PPE)

-ชุดป้องกัน (Coveralls):
ป้องกันผิวหนังจากสารอันตราย 
-ถุงมือ (Gloves):
ป้องกันมือจากสารเคมีหรือการบาดเจ็บทางกายภาพ
-รองเท้าเซฟตี้ (Safety Shoes):
ป้องกันเท้าจากการกระแทกหรือการลื่น
-แว่นตานิรภัยหรือหน้ากากป้องกันใบหน้า (Safety Glasses or Face Shield):
ป้องกันดวงตาและใบหน้าจากสารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอม
-หมวกนิรภัย (Hard Hat): ป้องกันศีรษะจากการกระแทก

 อ้างอิง

https://smartweb-ec.com/compare-ansi-and-osha